

บริษัท เคเอสเค ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัว
ฉบับนี้ เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงแนวทางในการปฏิบัติและการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. นิยาม
ข้อมูลส่วนบุคคล
หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
หมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง
ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ เป็นต้น
(ทั้งนี้ ในนโยบายฉบับนี้จะรวมเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”)
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมและแหล่งที่มาของข้อมูล
บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลดังต่อไปนี้
- 1.ข้อมูลส่วนตัวได้แก่ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด สถานภาพ เพศ ที่อยู่ เลขประจําตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง อาชีพ ตําแหน่ง ประสบการณ์การทํางาน
- 2.ข้อมูลการติดต่อได้แก่ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อในโซเชียลมีเดีย เช่น ID Line
- 3.ข้อมูลทางการเงินได้แก่ หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต ข้อมูลรายได้ สิทธิประโยชน์ได้รับ ข้อมูลการชำระเงินหรือได้รับชำระเงิน ข้อมูลด้านภาษีอากร ประวัติทางการเงิน
- 4.ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวได้แก่ เชื้อชาติ ศาสนา ประวัติทุพพลภาพ ประวัติสุขภาพ ประวัติการรักษาพยาบาล ประวัติการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ ประวัติการใช้สารเสพติด ใบรับรองแพทย์ บันทึกการตรวจทางการแพทย์ บันทึกการรักษา ประวัติการสั่งจ่ายยา รายละเอียดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ คำถามด้านสุขภาพ สำเนารายงานประจำวัน ความเห็นพนักงานสอบสวน ประวัติอาชญากรรม ประวัติการกระทำความผิด ภาพถ่ายหรือวิดีโอคลิปของการบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ คำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล
- 5.ข้อมูลการทำธุรกรรมประกันภัยได้แก่ ข้อมูลตามใบคําขอเอาประกันภัย ประวัติการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยและ/หรือการให้บริการต่างๆ ประวัติการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ข้อร้องเรียน ข้อมูลแสดงแนวโน้มการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- 6.ข้อมูลจากการติดต่อหรือเข้าเยี่ยมชมบริษัทได้แก่ ข้อมูลจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ เว็บไซต์อื่นๆ ของบริษัทในเครือ หรือแอปพลิเคชันที่บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินการ รวมถึงข้อมูลการใช้และความเคลื่อนไหวในการเข้าถึงแต่ละส่วนของเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของบริษัทฯ ข้อมูลการใช้โซเชียลมีเดีย รูปแบบของบันทึกข้อความของผู้รับบริการ การประเมินความพึงพอใจ การวิจัยและสถิติ การบันทึกเสียงสนทนา การฝากข้อความเสียง (Voice Mail) หรือการบันทึกภาพ (และการบันทึกเสียงเฉพาะกรณี) ผ่านกล้องรักษาความปลอดภัย (CCTV)
- 7.ข้อมูลอื่นๆได้แก่ ทะเบียนรถยนต์/จักรยานยนต์ เลขตัวถัง เลขเครื่องยนต์ ข้อมูลการทําวิจัยและการสัมภาษณ์ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม บริษัทได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยตรงจากท่าน หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากการดำเนินงานของบริษัท ฯ จากช่องทางการขายทุกช่องทาง การให้บริการ/การรับบริการต่างๆ ของบริษัท ซึ่งได้แก่
- 1.ขั้นตอนการสมัครเอาประกันภัย ขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การใช้บริการหรือทำธุรกรรมอื่นๆ กับบริษัท
- 2.จากความสมัครใจของท่านในการทำแบบสอบถาม (survey) การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ หรือการโต้ตอบทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ระหว่างท่านกับบริษัท
- 3.จากการเข้าเยี่ยมชมหรือใช้เว็บไซต์ของบริษัทผ่าน Browser’s Cookies ของท่าน
- 4.จากตัวแทน นายหน้าประกันวินาศภัย
- 5.สถานพยาบาล อู่หรือศูนย์ในสัญญา บริษัทรับสำรวจภัย และผู้ให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยของบริษัท
- 6.หน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมสรรพากร เป็นต้น
- 7.บริษัทประกันวินาศภัยอื่น
- 8.แหล่งอื่นๆ ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลมาโดยชอบด้วยกฎหมาย การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นใด อาทิ ผู้รับประโยชน์ ผู้อยู่ในอุปการะของผู้เอาประกัน พนักงาน ลูกจ้าง เป็นต้น ท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งสิทธิตามเอกสารฉบับนี้ต่อบุคคลเหล่านั้น และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นด้วยตัวท่านเอง ก่อนจะมอบข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นแก่บริษัท ทั้งนี้บริษัทขอเรียนให้ท่านทราบว่า หากท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทได้แจ้งไว้ได้อย่างครบถ้วน ย่อมส่งผลต่อการพิจารณาการทำนิติกรรมระหว่างบริษัทกับท่าน รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง
3. วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- 9.เพื่อพิจารณาการรับประกันภัยและพิจารณาค่าสินไหมทดแทนและจ่ายผลประโยชน์ตามสัญญา ประกันภัย และการให้บริการอื่นๆ ในฐานะผู้รับประกันภัยเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ประกันภัยและ บริการของบริษัท
- 10.การจัดเก็บเบี้ยประกันภัยและหนี้สินอื่นๆ (ถ้ามี) การตรวจสอบการชำระเบี้ยประกันภัยหรือค่าใช้จ่าย การชำระและตรวจสอบการชำระค่าสินไหมทดแทน
- 11.การปฏิบัติตามสัญญาประกันภัย การประกันภัยร่วม การประกันภัยต่อ และการประกันภัยต่อช่วย
- 12.การสำรวจภัย การประเมินความเสียหาย
- 13.การแจ้งต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย การให้บริการหรือการดูแลลูกค้า การควบคุมคุณภาพของการให้บริการ
- 14.การดำเนินการทางกฎหมาย กรณีต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกหรือรับช่วงสิทธิเรียกร้อง กับบุคคลภายนอก
- 15.การจัดทำสถิติ การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง การบริการ การคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยให้เหมาะสมกับความเสี่ยง การตรวจสอบและ ป้องกันการทุจริตด้านประกันภัย และ/หรือการกระทำที่ละเมิดหรืออาจละเมิดต่อกฎหมาย
- 16.การปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐที่บริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม
- 17.การติดต่อสื่อสาร การแจ้ง/รับข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัทประกันภัย หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- 18.การดำเนินการส่งเสริมการขาย การแจ้งสิทธิประโยชน์ และ/หรือการทำการตลาดแบบตรง และ/ หรือต่อเนื่อง หรือเพื่อพัฒนาการให้บริการของบริษัท
- 19.การประเมินผลพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อการวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน เพื่อจัดทำ ปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาเว็บไซต์แอปพลิเคชั่นหรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ ดังกล่าวให้เหมาะสม
- 20.ประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด
อนึ่ง ในการได้ข้อมูลของท่านมานั้น บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้น ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ก.)ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯ เป็นการชัดแจ้ง
- ข.)เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการ ตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามสัญญา (Contractual Basis)
- ค.)เป็นการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- ง.)เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจที่รัฐได้มอบหมายให้แก่บริษัทฯ
- จ.)เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest)
- ฉ.)เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ที่บริษัทมีหน้าที่ปฏิบัติตาม (Legal Obligation)
- ช.)เพื่อการใดๆ ตามที่กฎหมายให้อำนาจโดยชอบ
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยและการให้บริการด้านประกันภัย บริษัท ฯ มีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ดังต่อไปนี้
- 21.สํานักงานคณะกรรมการกํากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เพื่อประโยชน์ในการ กํากับดูแล ธุรกิจประกันภัย
- 22.หน่วยงานกํากับดูแลอื่นๆ ตามกฎหมาย เช่น สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร เป็นต้น
- 23.สมาคมประกันวินาศภัยไทย และ/หรือ หน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อประโยชน์ในการจัดทําสถิติ และคํานวณอัตราเบี้ยประกันภัย
- 24.บริษัทประกันภัยต่อ และ/หรือ บริษัทประกันภัยร่วม
- 25.สถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการรับชําระเงินและการจ่ายเงิน
- 26.ผู้ให้บริการภายนอก ซึ่งบริษัทได้มอบหมายให้ดําเนินการแทนบริษัท ในเรื่องการรับประกันภัย การสํารวจภัย การชดใช้ค่าสินไหมทดแทน การดําเนินการทางกฎหมาย การตรวจสอบบัญชี การให้บริการ และการดําเนินการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัย
- 27.ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นคนกลางประกันภัยของบริษัท ตัวแทน นายหน้าเพื่อประโยชน์ในการ ให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์
- 28.บุคคลภายนอกตามที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากท่าน หรือบุคคลที่ท่านอาจคาดหมาย ได้อย่างสมเหตุสมผลเกี่ยวกับการทำสัญญาประกันภัยของท่าน หรือเปิดเผยเพื่อการทำธุรกรรม และ/หรือ การใช้บริการตามความประสงค์ของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่แจ้งข้างต้น
บริษัทฯ จะโอนถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศต่อเมื่อปรากฏว่าประเทศผู้รับข้อมูลส่วนบุคคล
มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ตามที่กฎหมายกำหนด และต้องเป็นไปตาม
วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่ระบุข้างต้น
- 29.การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) และมาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure)เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการ
ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล มิให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหาย บริษัทจึงได้สร้าง
ความตระหนักด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศรวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการรักษา
ความปลอดภัยสารสนเทศให้เป็นไปตามที่กฎหมายกฎเกณฑ์ของหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลธุรกิจ
กำหนด
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยการจำกัดสิทธิ
การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้กับเฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
โดยบุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ฯ
อย่างเคร่งครัด ตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
- 30.ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ นานเท่าที่จำเป็นต้องเก็บเพื่อการดำเนินการให้บรรลุ
ตามวัตถุประสงค์ในการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น โดยบริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ หรือ การติดต่อครั้งสุดท้ายกับบริษัทฯโดยบริษัทฯอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในรูปแบบที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูล
ส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้ว
เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นต้น
บริษัทฯ จะมีการดำเนินการในขั้นตอนอันเหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน เมื่อพ้นระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น
- 31.สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กําหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้
- 32.สิทธิในการขอเข้าถึง หรือขอรับสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคล
- 33.สิทธิในการขอให้บริษัท ฯ ดําเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
- 34.สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัท รวมทั้งสิทธิในการขอให้บริษัทส่งหรือโอน ข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือ โอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทําได้
- 35.สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือถอน ความยินยอมที่ให้ไว้เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท
- 36.สิทธิในการขอให้บริษัทดําเนินการลบหรือทําลายหรือทําให้ข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุ ตัวบุคคลของท่านได้
- 37.สิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- 38.สิทธิในการร้องเรียน ในกรณีที่บริษัทฯ รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือประกาศที่ออกตาม พระราชบัญญัตินี้
ท่านสามารถติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ (รายละเอียดการติดต่อปรากฎตามด้านล่าง) โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอดังกล่าวจากท่าน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถปฏิเสธสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิทธิขอลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถ
ระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
หากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด
อนึ่ง การลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือการถอนความยินยอมของท่านสามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายเท่านั้น ทั้งนี้การใช้สิทธิดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อกรณีการปฏิบัติตามสัญญา หรือการให้บริการตามสัญญาประกันภัยแก่ท่านได้
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น
- 39.ช่องทางติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทฯ ข้อมูลที่เก็บรวบรวม หรือต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อมาได้ที่
บริษัท เคเอสเค ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ 100/24 อาคารสาธรนครทาวเวอร์ ชั้น 16 เอ,
ถนนสาทรเหนือ, แขวงสีลม, เขตบางรัก,กรุงเทพมหานคร,
10500, ประเทศไทย
เบอร์โทรศัพท์: 0 2022 1101
อีเมล : DPO.th@kskgroup.com
5. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการปรับปรุงข้อมูลลงในเว็บไซต์ของเราโดยเร็วที่สุด
ท่านสามารถดูรายละเอียดการแก้ไขดังกล่าวได้ที่........................................
ปัจจุบันนโยบายความเป็นส่วนตัวถูกทบทวนครั้งล่าสุดเมื่อ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564